สิ่งที่คุณต้องมีก่อนการหาสถานที่จัดงานแต่งงานในฝัน
เป็นธรรมดาก่อนที่คนเราจะออกตามล่าหาฝัน เราต้องรู้ก่อนว่าความฝันของเราคืออะไร มีรูปร่างหน้าตาอย่างใด และความฝันนั้นมันให้อะไรกับเราได้บ้าง ซึ่งถ้าเราไม่รู้สิ่งเหล่านี้ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่า เราจะออกไปหามันได้อย่างไร ฉะนั้นก่อนที่คุณจะออกไปหาสถานที่จัดงานแต่งงานในฝันของคุณนั้น คู่บ่าวสาวทั้งสองต้องนั่งจับเข่าคุยกันก่อนเพื่อให้รู้ว่า งานแต่งงานในฝันที่คุณทั้งสองคนต้องการนั้น มีลักษณะอย่างไร คุณต้องการให้งานแต่งของคุณออกมาอย่างไร พูดง่ายๆแบบชาวบ้าน ก็คือ คุณมีคอนเซ็ปของงานแบบใหนอย่างไรนั่นเอง
วางแผนเพื่อหาข้อมูล
เมื่อคุณทั้งสองรู้ข้อมูลแล้วว่าคุณต้องการงานแต่งงานของคุณแบบใด คุณต้องเริ่มจินตนาการเพื่อให้เห็นภาพงานแต่งของคุณทั้งสอง ค่อยๆปรึกษาและปรับความต้องการที่แตกต่างระหว่างคุณทั้งสองให้ลงตัวที่สุด พูดคุยและปรึกษากันบ่อยๆจนสามารถสรุปได้ว่า คุณทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่า งานแต่งงานในฝันของคุณต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ อันนี้ผมแนะนำว่า งานแต่งงานในฝันที่ว่านั้น ต้องเป็นในฝันของทั้งสองฝ่ายนะครับ ไม่ใช่เป็นฝันที่สวยงามของฝ่ายหนึ่งแต่เป็นฝันร้ายของอีกฝ่ายหนึ่ง อันนี้ไม่เอานะครับ
เมื่อคุณเห็นภาพฝันของคุณค่อนข้างชัดเจนแล้ว ตอนนี้ต้องมาวางแผนว่าสถานที่แต่งงานสำหรับงานในฝันของคุณนั้น ควรจะมีรูปลักษณะอย่างไร ตรงกับคอนเซ็ปงานที่คุณวางไว้หรือไม่ หลังจากนั้นคุณทั้งสองต้องเริ่มหาข้อมูล ไม่ว่าจะหาจากอินเทอร์เน็ท หรือจะจากการสอบถามคนที่มีประสบการณ์ก็ได้ทั้งสิ้น เมื่อได้ข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณต้องทำการติดต่อเพื่อสอบถามและนัดดูสถานที่ทันที อย่าผลัดวันประกันพรุ่งเด็ดขาด เพราะถ้าฤกษ์ของคุณบังเอิญเป็นฤกษ์ยอดนิยม สถานที่จัดงานแต่งงานในฝันของคุณอาจจะเป็นสถานที่ในฝันของคนอื่นอีกหลายคู่ก็ได้ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน
นัดดูสถานที่
วันที่คุณเข้าดูสถานที่นั้น นอกจากจะดูว่าสถานที่จัดงานดังกล่าวตรงตามภาพฝันหรือตรงตามคอนเซ็ปงานแต่งงานในฝันของคุณแล้ว ยังมีข้อปลีกย่อยอื่นๆอีกที่ต้องพิจารณา ซึ่งผมจะแนะนเป็นข้อย่อยๆโดยสังเขปดังนี้…
1. ระยะทางต้องไม่ไกลจนเกินไป คุณต้องคำนึงถึงตัวคุณและแขกส่วนใหญ่ที่คุณจะเชิญมาในงาน อีกทั้งต้องเดินทางโดยสะดวกด้วย
2. ขนาดของสถานที่ อันนี้คุณต้องสามารถประมาณการได้ว่า สถานที่จัดงานแต่งงานในฝันนั้นสามารถรองรับจำนวนแขกที่คุณจะเชิญมาได้หรือไม่
3. งานแต่งที่คุณวาดฝันไว้นั้น มีอุปกรณ์เสริมที่จะต้องนำเข้ามาเพื่อตบแต่งมากน้อยแค่ไหน อันนี้คุณต้องเผื่อไว้ด้วย ไม่ใช่สถานที่จัดงานสามารถรองรับแขกได้ก็จริง แต่พอถึงวันงาน คุณขนเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ตบแต่งเข้ามา จนทำให้พื้นที่คับแคบ ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาได้
4. พิจารณาช่วงฤดูกาล ถ้าฤกษ์แต่งงานของคุณเป็นช่วงหน้าฝน ผมแนะนำให้คุณเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานที่เป็นแบบอินดอร์จะดีกว่า คุณคงไม่อยากจะเห็นแขกของคุณต้องวิ่งหนีฝน โดยเฉพาะในช่วงพิธีการ จริงมั้ยครับ
5. ราคาสถานที่ อันนี้ที่จริงคงจะไม่ต้องแนะนำ แต่พูดไว้หน่อยก็ดี คือสถานที่จัดงานแต่งงานในฝันของคุณต้องไม่แพงจนเกินไป คุณต้องใช้เวลาดูหลายๆที่ แต่อย่าให้นานจนเกินไป ก็ด้วยเหตุผลที่ได้กล่าวไปแล้ว ถ้าคุณลังเลและใช้เวลานานเกินไป คุณอาจจะต้องไปจัดงานในสถานที่ๆไกลๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ผมแนะนำในเรื่องนี้ เพราะผมไม่อยากให้คู่บ่าวสาวคำนึงถึงเรื่องงานแต่งงานมากจนลืมเรื่องงบประมาณ เพราะถ้าเกินงบมากๆก็อาจจะทำให้ชีวิตหลังแต่งงานหมดความสุขได้ มัวแต่หาเงินมาจ่ายหนี้ เครียดนะครับ
กล่าวโดยสรุป
การที่คุณจะได้สถานที่จัดงานแต่งงานในฝันตรงตามคอนเซ็ปที่คุณต้องการนั้น การเตรียมการวางแผนเป็นสิ่งที่สำคัญนะครับ ถ้าคุณได้ฤกษ์ที่พอมีเวลาก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าฤกษ์แต่งงานของคุณน้อยกว่า 4 เดือน ก็อย่าชะล่าใจเป็นอันขาด ผมขอบอกคุณเลยนะว่า 4 เดือน ไม่ถือว่ามาก เพราะการจัดงานแต่งงานมีรายละเอียดที่คุณต้องทำอยู่มากมายหลายเรื่อง คุณต้องวางแผนและดำเนินการเลย อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง อันนี้ผมเตือนไว้เลยนะครับ และอีกประการหนึ่ง คุณควรหาสถานที่ๆมีผู้ชำนาญงานที่สามารถให้คำปรึกษาแก่คุณได้ก็จะเป็นการดีนะครับ เผื่อคุณมีปัญหาอะไร เขาก็จะได้ให้คำแนะนำแก่คุณได้